ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กำเนิดเครื่องดื่มมอลต์สะกิด

กำเนิดเครื่องดื่มมอลต์สะกิด  
มาถึงตรงนี้แล้วน่าพอจะสรุปได้ว่า ถ้าเราจะไม่พูดกันถึงนมนั้นก็เครื่องดื่ม “มอลต์สกัด” อย่าง “โอวัลติน” นี่แหละครับที่ดูมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด
ดังนั้นก่อนจบถ้าเราไม่พูดถึง “ประวัติความเป็นมา” ของโอวัลติน (ตามที่ได้จั่วหัวเรื่องไว้)
ซะบ้างเลย ผมก็ว่ามันจะยังไงๆ อยู่นะครับ
คืออย่างน้อยก็ให้อยากให้รู้ไว้ว่า เครื่องดื่มอันเก่าแก่นี้เกิดและโตมาจากสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปีค.ศ. 1904 
โน่นแนะครับ โดยเริ่มแรกเดิมทีนั้น
เขาใช้ชื่อว่า “ovomaltine” ที่มาจากคำว่า “ovum”แปลว่า ไข่ ในภาษาละติน และ “malt” ซึ่งใช้เป็นส่วนผสม
หลัก
และต่อมาถูกแผลงคำไปเรื่อยๆ
จนเมื่อนำออกขายนอกสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อกลับถูกเรียกเป็น ovaltine มาจนกระทั่งทุกวันนี้ในที่สุด
เรื่องของเรื่องก็เป็นผลพวงมาจากความบังเอิญของดร.อัลเบิร์ต วันเดอร์
(ลูกชายเจ้าของบริษัทวันเดอร์ เอจี บริษัทย่อยของทไวนนิงส์)
ที่พยายามหาทางค้นคว้าหาสารอาหารที่มีความครบถ้วน เพื่อมารักษาอาการของคนไข้ที่กินอะไรไม่ค่อยจะลง โดยทดลองนำ
ไข่
มอลต์ (ทำมาจากข้าวบาร์เลย์)
และโกโก้ มาผสมกันเพื่อให้คนไข้ดื่ม ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะได้ผลออกมาดีเกินคาด  ต่อมาจึงพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็น
“โอวัลติน” อย่างที่พวกเรารู้จักกันดีนี่แหละครับ
สำหรับในบ้านเรามีโรงงานผลิต “โอวัลติน” ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก (ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ในลิขสิทธิ์ของ
ABF (Associated British Foods Plc) เป็นของ “บริษัท เอ เอฟ ประเทศไทย จำกัด”
ท้ายสุดจึงน่ารวมความได้ว่าเครื่องดื่มก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าอาหารที่เรารับประทานเข้าไปเหมือนกัน
ดังนั้นการเลือกเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการก็มีส่วนเสริมช่วยทำให้ร่างกาย
ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกันนะครับ

.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประโยชน์โอวัลติน

ประโยชน์จากเครื่องดื่ม โอวัลตินหรือไมโลอุดมไปด้วยสารอาหารจาก   “ มอลต์”   แล้วนำมากลั่นด้วยความร้อนต่ำเพื่อให้คงไว้ซึ่งคุณค่าของสารอาหารอย่างครบถ้วน ด้วยการผลิตอันพิถีพิถันเริ่มจากนำข้าวบาร์เลย์ไม่ผ่านการขัดสีมาแช่น้ำให้รากงอกออกมาเล็กน้อย เพราะเป็นช่วงที่เมล็ดข้าวบาร์เลย์เต็มไปด้วยสารอาหาร เนื่องจากเอนไซม์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลที่อยู่ในเมล็ดทั้งชนิดแอลฟา และเบต้านั้น จะเริ่มกระบวนการผลิตคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และสารอาหารอื่นๆ ที่ละลายน้ำ เพื่อส่งอาหารให้กับยอดอ่อนเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต โดยสารอาหารธรรมชาติเหล่านี้ นับได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูงและดีต่อสุขภาพมาก ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินซี และธาตุเหล็ก รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมายที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วย

ประวัติโอวัลติน

บริษัท เอบี ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ Associated British Foods Plc (ABF) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทค้าปลีก อาหารและวัตถุดิบระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศอังกฤษ ความภาคภูมิใจของเรา คือ การได้มอบ “คุณค่าดี ๆ เพื่อทุกวันของชีวิต” ให้แก่ผู้บริโภคและเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลกผ่านแบรนด์ โอวัลติน ( Ovaltine) เครื่องดื่มมอลต์แสนอร่อย และแบรนด์ ทไวนิงส์ ( Twinings) ชาชั้นเลิศของโลกบริษัท เอบี ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจส์ (ประเทศไทย) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานครและทำการตลาดให้แก่แบรนด์ต้นตำรับเก่าแก่อย่าง โอวัลติน และ ทไวนิงส์ ไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรงงานผลิตของเราในประเทศไทยตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการและเป็นแหล่งผลิตโอวัลตินที่ใหญ่ที่สุดของโลก วิสัยทัศน์ คุณค่าดีๆ เพื่อทุกวันของชีวิต แบรนด์ของเรา 1. โอวัลติน แบรนด์เครื่องดื่มเต็มเปี่ยมด้วยคุณค่าโภชนาการและรสชาติแสนอร่อยที่เป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวนับล้านทั่วโลก ด้วยรสชาติมอลต์เข้มข้นและคุณค่าสารอาหาร ในประเทศไทย โอวัลตินมุ่งมั่นในพันธกิจหลักในการสร้างชีวิตที่ดีกว่า...

วิธีชงโอวัลตินให้อร่อย

แล้วชงยังไงให้อร่อย  วิธีชงให้อร่อยนั้น คือ ชงกับ “นม” ครับ โดยใช้วิธีอุ่นนมให้ร้อน แล้วเติมโอวัลตินลงไปชงเลยครับ หรือถ้าจะชงเย็น ก็ใช้น้ำร้อนชง (ใช้น้ำร้อนนิดเดียว แค่พอโอวัลตินละลาย) จะนั้นก็เติมนมลงไป เท่านี้คุณก็จะได้ โอวัลติน รสกลมกล่อม กลิ่นหอมถูกใจ และยังได้สารอาหารมากมายกินโอวัลตินแล้วอ้วนมั๊ย!!สำหรับ คนที่คิดว่า ดื่มโอวัลตินแล้วอ้วน จริงๆแล้วโอวัลตินไม่ได้ทำให้อ้วนหรอกครับ ตัวที่ทำให้อ้วนนั่นคือ “นมข้นหวาน” ที่คุณเติมลงไปนั่นแหละถ้าคนที่กลัวอ้วน หรือต้องการควบคุมน้ำหนัก ก็สามารถ ชงโอวัลตินกับน้ำร้อน โดยที่ไม่ต้องเติมน้ำตาล นมข้นหวาน หรือ ครีมเทียมก็ได้นะครับ